ขายฝากบ้าน ดียังไงวันนี้ทาง Supsin Property มีบทความดีๆมาฝาก
ข้อดีของการ ขายฝากบ้าน
ไม่เสียเวลาในการบังคับคดี เพราะการ ขายฝากบ้าน บ้านที่เราดำเนินการขายฝากจะหลุดทันทีเมื่อครบสัญญา บ้านนั้นจะตกกับเจ้าของคนใหม่ในทันที กล่าวได้ว่า บ้านจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับขายฝากในทันทีที่สัญญาหลุด เช่น ถ้าคุณทำสัญญาขายฝากไว้สองปี แต่คุณไม่สามารถไปไถ่บ้านคืนจากผู้รับขายฝากได้ภายในระยะเวลา 2 ปี บ้านหลังนั้น ก็จะตกกับผู้รับขายฝากทันที ซึ่งคุณสามารถไปขอขยายระยะเวลาได้ เช่น ก่อนจะครบสองปี คุณไปขอขยายระยะเวลาก่อนจะครบกำหนดได้ แต่จะขอขยายสัญญาขายฝากบ้านได้นานสุดไม่เกิน 10 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด แต่คุณก็ต้องส่งดอกเบี้ยทุกเดือนต่อไป ถ้าคุณขยายสัญญาขายฝาก
ผู้รับขายฝากมีความสบายใจ เพราะคุณจะได้กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่คุณรับขายฝากไว้อย่างแน่นอน เพราะว่าตั้งแต่วันแรกที่ลูกหนี้ หรือผู้ขายฝาก นำกรรมสิทธิ์มาขายฝาก ลูกหนี้จะต้องนำทรัพย์มาวางไว้กับคุณด้วย และเปลี่ยนเป็นชื่อของคุณรอไว้ด้วย ถ้าลูกหนี้ไม่มาขอไถ่ถอนที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ที่มาวางไว้ในระยะเวลาที่กำหนด กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น ก็จะตกแก่ผู้รับขายฝากทันที ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าการรับขายฝากบ้านจะถูกโกง
ผู้นำที่ดินมาขายฝากสามารถขยายระยะเวลาได้ ไม่ว่าจะขายฝากบ้านกับธนาคารหรือขายฝากบ้านกับคนรู้จัก ก็สามารถดำเนินการขอขยายอายุสัญญาขายฝากได้ แต่ต้องคิดให้ดีก่อนการขอต่ออายุว่า คุณจะมีศักยภาพเพียงพอในการไถ่ถอนกรรมสิทธิ์คืนในอนาคตหรือไม่ เพราะว่าการขอต่ออายุสัญญาขายฝาก ก็คือต้องมีการส่งดอกเบี้ยต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีเงินก้อนที่จะสามารถไถ่ถอนกรรมสิทธิ์คืนมาได้ หากหาเงินก้อนมาไถ่ถอนไม่ได้ จนถึงวันที่ครบอายุสัญญา กรรมสิทธิ์นั้นก็ตกกับผู้รับขายฝากอยู่ดี
การถือไพ่เหนือกว่าของผู้รับขายฝาก การที่ลูกหนี้ต้องนำกรรมสิทธิ์ไปวางไว้กับผู้รับขายฝากบ้านเลย ทำให้ไม่มีทางที่ผู้รับขายฝาก จะเดินมาตามทวงดอกเบี้ยทุกวันสิ้นเดือนแบบเงินกู้นอกระบบ คือลูกหนี้ก็จะไม่อายชาวบ้าน เพราะจะไม่มีใครมาตามทวงหนี้แน่นอน เพราะหากลูกหนี้ขาดส่ง หรือตุกติก เมื่อครบอายุของสัญญา กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น ก็จะตกกับผู้รับขายฝากในทันที ถือเป็นความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเจ้าหนี้ก็ไม่ต้องกลัวลูกหนี้หนีหนี้ ฝ่ายลูกหนี้ก็ไม่ต้องอายเพื่อนบ้าน
ขั้นตอนการ ขายฝากบ้าน
ขายฝากบ้านคือ การกู้ยืมที่มีขั้นตอนการดำเนินการ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีการจดทะเบียนขายฝากที่กรมที่ดินอย่างถูกต้อง ในพื้นที่ที่โฉนดที่ดินแปลงที่ต้องการขายฝากตั้งอยู่ มีขั้นตอนการมอบเงิน และทำสัญญาทุกอย่างต่อเจ้าหน้าที่ โฉนดที่ดินที่จะทำการขายฝากนั้น จะผ่านการประเมินและจะต้องเป็นโฉนด น.ส.4จ เท่านั้น
การขายฝากนั้นไม่ว่าจะเป็น การขายฝากที่ดิน ขายฝากบ้านขายฝากอาคารพาณิชย์ ขายฝากตึกแถว หรือขายฝากทาวเฮาส์ ก็ทำการขายฝากได้ เจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน จะเป็นผู้ประเมิน ดำเนินการทำสัญญา ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารทั้งหมด ที่ต้องใช้ในการทำสัญญาขายฝาก และเจ้าหน้าที่จะทำการพิมพ์หลังโฉนดที่ดิน ผืนที่ได้ทำการขายฝาก ว่าได้ทำการขายฝากเรียบร้อยแล้ว พร้อมระบุระยะเวลาตามสัญญา ที่ได้ตกลงกันระหว่างผู้ทำการขายฝาก เมื่อถึงเวลาที่ครบตามสัญญาแล้ว ผู้ขายฝากสามารถนำเงินมาทำการไถ่ถอนโฉนดที่ดิน ที่ได้นำมาขายฝากได้ ต้องทำการไถ่ถอนโฉนดต่อเจ้าหน้าที่ ณ กรมที่ดินเท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ที่ผู้ขายเคยขายฝากกลับมาเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินดังกล่าวเหมือนเดิม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ทรัพย์สิน พร็อพเพอร์ตี้
ขายฝากบ้านที่ควรรู้ก่อนทำสัญญา
1.การขายฝากจะทำสัญญาระหว่างผู้ขายฝากและผู้รับซื้อฝาก ณ สำนักงานที่ดิน จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ ว่าจะได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม ตามกฎหมาย
2.การอนุมัติสัญญารวดเร็วกว่า การขอสินเชื่อกับธนาคาร
3.ได้วงเงินดีกว่าการไปจำนอง
4.การทำสัญญาฝากขายที่ดิน ไม่จำเป็นต้องเช็คประวัติแบล็คลิส เครดิตทางการเงิน หรือ Statement ซึ่งสะดวกสบายและรวดเร็ว
5.หากครบกำหนดแล้ว ผู้ขายฝากยังไม่สามารถไถ่คืนที่ดินได้ ผู้ขายฝากอาจทำสัญญาขยายระยะเวลาการไถ่ถอนออกไปก่อนได้ ซึ่งสามารถขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกิน 10 ปี
6.ผู้ขายฝากยังคงได้ครอบครองที่ดิน และใช้ประโยชน์ต่อไปได้จนกว่าจะพ้นกำหนดการไถ่ถอน เว้นแต่ว่าคู่สัญญาจะตกลงกันเป็นประการอื่น
ขั้นตอนวิธีการขายฝากง่ายๆกับ Supsin Property
1.ลงทะเบียน /โทร /แอดไลน์
-ลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในการดำเนินการ
-Line @ : LINE
2.ทีมงานผู้เชี่ยวชาญโทรประมาณทรัพย์
ทีมงานผ้เชียวชาญประเมินทรัพย์ ที่มีประสบการณ์และได้รับมาตรฐาน ให้ทราบถึงข้อมูล มูลค่าทรัพย์สินที่ต้องการมาค้ำประกัน เพื่อทางทีมงานจะได้ประเมินวงเงินขายฝากที่มีความยุติธรรมแก่ผู้มาค้ำประกันกับ ทรัพย์สิน พร็อพเพอร์ตี้ของเรา
3.การทำสัญญาที่ กรมที่ดิน
เป็นการทำสัญญาให้ ถูกต้องตามกฎหมาย ณ สำนักงานที่ดิน และทำธุรกรรมต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น ผู้ขายฝากจะได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรมตามกฎหมาย
4.การตรวจสอบเอกสารสิทธิ์
การตรวจสอบสิทธิ์หรือโฉนดที่ดิน และผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ ว่าเป็นที่ดินแปลงไหน มีขอบเขตอย่างไรตรวจเช็คให้ถูกต้องตามที่ลูกค้าซื้อ
5.การให้คำแนะนำในเรื่องของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
การให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจซื้อ และผู้ที่สนใจในการขายที่ดิน ในเรื่องของกฎหมาย การถือครอง การเสียภาษี การโอนกรรมสิทธิ์ และการคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ
“การไถ่ถอนทรัพย์”
การไถ่ถอนทรัพย์ ในกรณีที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาแล้ว ผู้ขายฝากสามารถที่จะนำเงินพร้อมต้นค่าตอบแทน ไปชำระต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดิน ที่สำนักงานที่ดิน กรรมสิทธิ์ก็จะกลับมาเป็นของผู้ขายฝากทันที โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.ให้ผู้ขายฝากแจ้งไปยังผู้ซื้อฝากล่วงหน้าในระยะเวลา 30 วัน เพื่อเป็นการกำหนดระยะเวลานัดหมาย ไปยังสำนักงานที่ดิน
2.สิ่งที่ผู้ขายฝากต้องเตรียมมาด้วยก็คือ
- คู่สัญญาขายฝาก พร้อมบัตรประจำตัวประชาชา ( ตัวจริง ) และทะเบียนบ้าน ( ตัวจริง )
- เงินต้นพร้อมกับค่าตอบแทน ( สินไถ่ ) หากทำการชำระค่าตอบเเทนครบแล้ว ให้นำเฉพาะเงินต้นไปเท่านั้น พร้อมหลักฐานการชำระเงิน ( ชำระเป็นเงินสดหรือเเคชเชียร์เช็คเท่านั้น )
- ค่าทำเนียมกรไถ่ถอนขายฝาก ( บุคคลธรรมดา)
– ค่าธรรมเนียมแปลงละ 50 บาท
-ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย ( คิดจากราคาประเมินราชการ นับระยะเวลาตั้งแต่วันทำสัญญาขายฝากถึง ไถ่ถอน )
3.สิ่งที่ผู้รับซื้อฝากต้องทำการเตรียม
- คู่สัญญาขายฝาก พร้อมบัตรประชาชน ( ตัวจริง ) และทะเบียนบ้าน ( ตัวจริง )
- โฉนด ( ตัวจริง )