การขายบ้าน และคอนโดต้องเสียงภาษีอะไรบ้าง?

การขายบ้าน และคอนโดต้องเสียงภาษีอะไรบ้าง?

การ ขายบ้าน และคอนโดต้องเสียงภาษีอะไรบ้าง?

การ ขายบ้าน และคอนโดนั้นเมื่อทำการขายได้แล้ว จะต้องทำการเสียภาษี คือ ภาษีเงินได้หนัก ณ ที่จ่าย และภาษีธุรกิจเฉพาะ จะคิดภาษีที่ 3.3 % ของราคาประเมิน หรือราคาให้ใช้ราคาที่สูงที่สุด จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำการเสียภาษีนั้น ก็ต่อเมื่อครอบครองบ้านหรือคอนโดเกินกว่า 5 ปี มีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี การได้รับบ้านหรือคอนโดมาโดยมรดก และถูกเวนคืนบ้านหรือที่ดิน

ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น มีเทคนิควิธีในการสร้างรายได้ให้กับนักลงทุน หรือผู้ที่มีความสนใจ ในเรื่องของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ วันนี้ supsin Property มีวิธีง่ายๆมาแนะนำ วิธีการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มา ง่ายๆและสามารถใช้ได้กับทุกการลงทุน ในด้านอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ

อสังหาริมทรัพย์เป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี สำหรับผู้ซื้อบ้าน กระบวนการในการซื้อบ้านนั้นยาก ใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายสูง ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ยังคงเป็นส่วนสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับ วิธีการทำงานของการ ” จำนอง ” และสิ่งที่คุณจะได้รับจากเงินของคุณ เมื่อคุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

นอกจากการเสียภาษีทั้ง 2 ส่วนแล้วยังมีรายจ่ายอีกมากมายดังต่อไปนี้

1.ค่าอากรเเสตมป์ ซึ่งคำนวณจากราคาประเมิน หรือราคาขายโดยใช้ราคาที่สูงกว่าคำนวณในอัตรา ร้อนละ 0.5 ในส่วนนี้ผู้ทำการขายนั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ในส่วนของการยกเว้นอากรนั้น จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อทำการเสียภาษีธรกิจเฉพาะ

2.ในส่วนของค่าธรรมเนียมการโอน จะทำการเสียในอัตราร้อยละ 2 จากราคาประเมิน โดยในส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับการตกลงกัน ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายว่าใครจะเป็นคนจ่าย หรือจะทำการจ่ายกันคนละครึ่งก็ได้

ขั้นตอนการกู้เงินซื้อ ขายบ้าน และคอนโด สำหรับมือใหม่

1.เลือก คอนโด และทำเลที่ตั้งที่ถูกใจ ว่าสนใจห้องขนาดไหน คอนโดตั้งอยู่ในตำแหน่งไหน 

2.เข้าไปเยี่ยมชมโครงการต่างๆ เพื่อสอบถามข้อมูลพนักงานขาย 

3.ทำจองคอนโดที่สนใจกับพนักงานขาย การจองนั้นจะนำเงินค่าจอง ไปรวมกับค่าดาวน์ในภายหลัง

4.การเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อทำสัญญาการ ซื้อ / ขาย ในส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการทำสัญญา รวมไปถึงการวางเงินดาวน์ 

5.รอโครงการสร้างเสร็จ เพื่อทำการผ่อนดาวน์ การรอขึ้นอยู่กับความใหญของโครงการ อาจจะใช้ระยะเวลา 2-3 ปี

6.ขั้นตอนนี้สำคัญนั้นก็คือ การเลือกธนาคารที่เราจะทำการกู้เงิน และทำสัญญากู้กับธนาคาร เมื่อเลือกธนาคารเรียบร้อยแล้วทางพนักงานขาย จะทำการติดต่อไปหายังธนาคารเพื่อคุยรายละเอียด และธนาคารจะทำการติดต่อกลับมาหาเราอีกครั้ง

7.เมื่อเราทำการกู้ และทำสัญญากับธนาคารผ่านเรียบร้อยแล้ว ทางโครงการจะทำการนัดหมาย การตรวจเช็คภายในห้อง รวมไปถึงระบบเเละอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ และทำการโอนกรรมสิททธิ์

8.เมื่อห้องสมบูรณ์แล้ว หากผู้ใดที่มีวงเงินน้อยอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากวงเงินค่อนข้างสูง ทางโครงการจะทำการหักจากค่าใช้จ่ายออกจากเงินกู้เลย

โดยพื้นฐานแล้วจะมีค่าใช้จ่าย ดังนี้

  • ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า
  • เงินกองทุน คิดเป็นตารางเมตร จ่ายครั้งเดียวในวันโอน
  • ค่าส่วนกลาง คิดเป็นตารางเมตรตามขนาดห้อง เก็บปีละ 1 ครั้ง ค่าส่วนกลางนั้นสามาถเปลี่ยนแปลงได้
  • ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ต
  • ค่าดอกเบี้ยประกันภัยอาคารชุด (เอกสารส่วนนี้เป็นเอกสารของโครงการ ไม่เกี่ยวกับธนาคาร)
  • ค่ารักษามาตรวัดน้ำประปา ( เก็บล่วงหน้า 1 ปี )
  • เงินประกันการใช้น้ำประปา ( จ่ายครั้งเดียว )
  • ค่าจดจำนอง 1 % ของราคาประเมิน

9.ขั้นตอนสุดท้าย เตรียมพร้อมขนของเข้าอยู่ สำหรับคอนโดห้องเปล่าที่ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ อย่าลืมเตรียมเงินไว้สำหรับตกแต่งห้อง ซื้อของเข้าห้อง อุปกรณ์เครื่องใช้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก่อนจะทำการซื้อคอนโดเราต้องมีเงินก้อนประมาณนึง เพื่อใช้จ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายเบ็ตเตล็ตต่างๆ

หากอยากขายคอนโด ที่ยังผ่อนไม่หมด ทรัพย์สิน พร็อพเพอร์ตี้ เรามีคำตอบ

  • สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกก็คือ การเข้าไปคุยกับทางธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับเรา เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ หรือการปรับลดระดับจำนวนเงิน ที่เราต้องทำการผ่อนเเต่ละเดือนลง
  • เมื่อต้องการ ขายคอนโด ออกสู้ตลาด ก็ต้องทำการแจ้งกับธนาคาร เนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินการขาย อีกหลากหลายรายการที่ทางธนาคารที่รับจำนอง จะต้องทำการแจกแจงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับเจ้าของคอนดดได้ทราบ
  • เมื่อต้องการ ขายคอนโดที่ยังทำการผ่อนไม่หมด ต้องหาผู้ที่จะทำการซื้อคอนโดต่อให้ได้ก่อนเป้นอันดับแรก หรือจะทำการหานายหน้า หรือจะทการติดต่อกับทางธนาคารว่าต้องการขายคอนโด ทางธนาคารก็จะทำการหาลูกค้าที่สนใจซื้อคอนโดให้
  • เมื่อได้ผู้ที่สนใจจะซื้อคอนดดแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการทำสัญญาจะซื้อจะขาย การทำสัญญานี้มีผลกับผู้ที่ซื้อเป้นอย่างมาก เนื่องจากผู้ซื้อจะต้องนำสัญญานี้ ไปยื่นกู้กับทางธนาคาร เพื่อมาจ่ายค่าคอนโดในกรณีที่ทางผู้ซื้อต้องทำการกู้ธนาคารเช่นกัน ในเอกสารสัญญาจะซื้อจะขายนั้นจะมีข้อมูลสำคัญและข้อตกลงต่าง ๆ
  • หลังจากที่ผู้ซื้อ ได้ทำการกู้เงินกับทางธนาคารเรียบร้อยแล้ว ต้องทำการนัดหมายผู้ซื้อให้ไปที่กรมที่ดิน เพื่อทำการนัดจดทะเบียนนิติกรรม ในการจดทะเบียนนิติดรรมนั้นผู้ซื้อและผู้ขาย จะต้องทำการนัดเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่เป็นผู้ให้กู้มาให้พร้อมกัน เนื่องจากในจะมีการจดทะเบียนต่าง ๆ ดังนี้
    • การจดทะเบียนการไถ่ถอนห้องชุด การจัดทะเบียนนี้ทำเพื่อที่จะให้ธนาคารที่เป็นผู้รับจำนองคอนโด ได้ทำการไถ่ถอนห้องชุดดังกล่าวให้กับผู้ขาย และทำการเสียค่าธรรมเนียมให้กับกรมที่
    • การจดทะเบียนขายห้องชุด การจดทะเบียนนี้เป็นการจะทะเบียนระหว่างผู้ซื้อคอนโดและผู้ขายคอนโด ว่าผู้ขายได้ขายห้องชุดให้กับผู้ซื้อ และทำการจ่ายค่าธรรมเนียมในการขายห้องชุดนั้นจะอยู่ที่ร้อยละ 2 จากราคาประเมินทุนทรัพย์ของห้องชุด แต่ในกรณีที่ผู้ขายซื้อคอนโดมาไม่ถึง 5 ปี หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปี จะทำการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะอีกร้อยละ 3.3 จากราคาประเมิน ถ้าทำการเสียภาษีเรียบร้อบแล้ว ไม่ต้องทำการเสียค่าอากร 0.5 %
    • การจดทะเบียนจำนองห้องชุด ในการจดทะเบียนนี้จะเป็นการจดทะเบียน ระหว่างผู้ซื้อกับทางธนาคารที่รับจำนอง ขั้นนี้จะเป็นขั้นตอนของผู้ รับซื้อคอนโด อย่างเดียว

เอกสารสำคัญ ที่จะต้องเตรียมไปในการซื้อขายคอยโด Supsin

1.เอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ( ฉบับจริง ) และสำเนาบัตรประชาชน

2.เอกสารทะเบียนบ้าน ( ฉบับจริง ) และสำเนาทะเบียนบ้าน เนื่องจากหลังทำการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายจะต้องทำการย้ายชื่อตัวเองออกจากทะเบียนบ้าน

3.โฉนดห้องชุดฉบับจริง

4.เอกสารหนังสือปลดหนี้ หรือใบปลดหนี้ เอกสารฉบับนี้สามารถขอได้ที่นิติบุคคลของคอนโดนั้นๆ เพื่อเป็นการรับรองว่าผู้ขายไม่ได้มีหนี้สินค้างชำระ กับนิติบุคคลของคอนโดนั้นๆแล้ว การซื้อขายคอนโดจะไม่สำเร็จ หากขายเอกสารฉบับนี้

การเตรียมเอกสารต่าง ๆ ในการ ขายบ้าน โอนบ้าน / ที่ดิน 

สำหรับเป็นบุคคลทั่วไป

  • โฉนดที่ดิน ( ฉบับจริง )
  • บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ชุด (เซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง)
  • ทะเบียนบ้าน ( ตัวจริง ) พร้อมสำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด ( เซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง )
  • หนังสือมอบอำนาจ ( ทด.21 ) ในกรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน
  • หนังสือให้ความยินยอมซื้อขายที่ดิน หรือที่ดินพร้อมบ้าน (กรณีสมรส )
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับคู่สมรส ( กรณีสมรส )
  • สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส ( กรณีสมรส )
  • สำเนาทะเบียนสมรส ( กรณีสมรส )
  • สำเนาทะเบียนหย่าร้าง ( กรณีหย่าร้าง )

สำหรับนิติบุคคล

  • โฉนดที่ดิน และหนังสือรับรองการทำประโยชน์
  • เอกสารหนังสือรับรอง การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
  • เอกสารหนังสือบริคณห์สนธิ และวัตถุประสงค์
  • เอกสารบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ในกรณที่เป็นบริษัท จำกัด หรือบริษัทมหาชน จำกัด
  • เอกสารแบบรับรองการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน ในกรณีหุ้นส่วน จำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่ทำการจดทะเบียนแล้ว
  • บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลไทย ที่ถือหุ้นในบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด
  • บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน และตัวอย่าง ลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคล
  • รายงานการประชุมนิติบุคคล

One thought on “การขายบ้าน และคอนโดต้องเสียงภาษีอะไรบ้าง?”

    1. Wow, amazing blog format! How long have you ever been blogging for?
      you make blogging glance easy. The whole look of your web site is great, let
      alone the content! You can see similar here sklep internetowy

    Add a Comment

    Your email address will not be published.