สร้างกำไรจาก ที่ดิน และอสังหาง่ายๆ

สร้างกำไรจาก ที่ดิน และอสังหาง่ายๆ

สร้างกำไรจาก ที่ดิน และอสังหาง่ายๆ

อยากจะทำเรื่อง ของการ ซื้อขายที่สามารถ ทำให้กลายเป็น เรื่องง่ายๆของการ ขาย ที่ดิน หรือทำให้ที่ดินนั้น เกิดกำไร ในที่ดินเอง หรือตัวอสังหาต่างๆใครๆ ก็เก็งกำไรเมื่อมี โอกาสเป็นเจ้าของเองทั้งนั้น เพราะในปัจจุบันการเก็งกำไร

ในรูปแบบนี้ค่อนข้างได้ ความนิยม เป็นอย่างมาก ซึ่งเปรียบได้เหมือน การลงทุนระยะยาว ที่เราสามารถจะเก็งกำไร ได้แม้ในเวลาอันสั้น หรือว่าใครก็สามารถต่อ ยอดในอนาคตได้ คนเกษียณที่พอมี เงินออมเก็บเก็งกำไรในทองคำหรือหุ้น เป็นต้น แต่พฤติกรรมการเก็งกำไรที่มีขนาดใหญ่และศักยภาพทำให้เศรษฐกิจล่มสลาย มักจะเกี่ยวข้องกับการเก็งกำไรในที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ บ้าน

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ หนึ่ง เป็นมูลค่า การลงทุนขนาดใหญ่ หลักล้านขึ้นไป สอง การซื้อที่ดินหรือ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก็อาจจะมีผลต่อมาในอนาคต เพื่อที่จะทำให้เกิด ภาวะต่างๆ ได้ เกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อ สถาบันการเงิน หากว่า ความเชื่อของแต่ละคน หรือพฤติกรรม ทำนองนี้เกิด ในวงกว้าง มีคำศัพท์เรียกว่า ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์

ที่ดิน

ซึ่งจะนำมา ยกตัวอย่างคราวๆ เพื่อที่จะได้ สามารถเข้าใจ ตรงกันและ นำไปปรับใช้ ในการเก็งกำไร ที่ดิน และอสังหาได้ดี ในอนาคตได้ 

ทำไมจึงต้อง เป็นฟองสบู่ อสังหาริมทรัพย์ ฟองสบู่เป็น คำเปรียบเปรย ฟังแล้วเห็นภาพเด็กเป่า ฟองสบู่โตขึ้นๆ ท้ายที่สุดระเบิด เป็นเรื่องสนุกๆ ที่ไม่มีผลเสียหายอะไร แต่ว่าฟองสบู่ อสังหาริมทรัพย์นั้นต่างกัน ในช่วงต้นๆ คนซื้ออสังหาฯ ได้กำไรงาม supsin Property

เกิดความรู้สึกพอใจ หรือสนุกที่ ราคาสูงขึ้นตามคาด แต่เมื่อกำลังซื้ออ่อนตัวลง ราคาอสังหาฯ ไม่ขึ้นอีกต่อไปหรือตกลงมา ชักจะไม่สนุก คนที่ซื้อที่ดินหรืออสังหาฯ ด้วยเงินผ่อนยิ่งเครียดหนักเพราะว่า ถูกทวงหนี้ ฟ้องร้อง บางรายถูกยึดทรัพย์

กลายเป็นเรื่องใหญ่ ระดับชาติ ขอเล่าตัวอย่างฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ในสหรัฐช่วงปี ค.ศ.2003-2008 มีผู้อธิบายว่า ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์เกิดจาก ช่องว่าง ระหว่างราคา ซื้อขายที่ดินและอสังหาฯ กับ ราคาพื้นฐาน ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่ทราบราคาพื้นฐานว่า เป็นเท่าใด และไม่มีหน่วยราชการใดแปะราคา พื้นฐานของที่ดินหรืออสังหาฯเอาไว้ให้อ้างอิง

ตำราอธิบายว่า ราคาพื้นฐานหมายถึง ราคาที่สะท้อน อุปสงค์และ อุปทานในอนาคต โดย คิดลด ขายที่ดิน ให้เป็นราคาในปัจจุบัน เข้าใจยาก ภาษาวิชาการเศรษฐศาสตร์ก็ มักจะเป็นอย่างนี้แหละ ลงท้ายก็คือ ก็แล้วแต่จะคิดกันไป

ผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งเผยแพร่ในปี 2013 อธิบายว่า คนอเมริกันที่ไม่มีบ้าน ของตนเองมีจำนวนมาก โดยเฉพาะคนผิวดำและผิวสี เม็กซิกันเป็นต้น หลายมลรัฐได้ออก นโยบายให้มีบ้านของตนเอง ซื้อที่ดิน

ผลักดันให้ราคาอสังหาฯ ในระหว่างปี 2000-2005 เพิ่มขึ้นเป็นอันมาก โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งบ้านและที่ดินในเมืองใหญ่ ควบคู่กันคือ การกู้ยืมแบบติดจำนอง เมื่อราคางาม

นักเก็งกำไรเห็นโอกาส ในการทำเงินเป็นอย่างมาก 

โอกาสเทเงินที่มีอยู่มา ซื้อบ้านและที่ดิน แต่ในท้ายที่สุด เมื่ออุปสงค์ชะลอตัว ราคาหลักทรัพย์เพิ่มช้าลง หรือติดลบ กลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มนักลงทุน ผู้กู้ระดับรองลงมาจากลูกค้าชั้นดี ถูกเจ้าจำนอง ยึดบ้านและที่ดินคืนเป็นอันมาก

มีผลงานวิจัย ที่ศึกษาฟองสบู่ หลังเหตุการณ์ โดยใช้สถิติหลายแบบ แบบหนึ่งคือวัดราคาบ้านเทียบกับค่าเช่า หรือวัดราคาบ้านเปรียบเทียบกับดัชนีค่าจ้าง แสดงหลักฐานข้อมูล ให้เห็นประจักษ์ว่ามีอัตรา การเพิ่มขึ้นของราคาบ้าน จนถึงจุดอิ่มตัวและปรับลดลงในท้ายที่สุด

การมองในภาพใหญ่ มหภาค โดยที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง ฟังดูแล้วรู้สึกว่า ธรรมดาโลก เป็นเช่นนี้ แต่มุมมองระดับจุลภาค คือครัวเรือน โดยเฉพาะครัวเรือนคนจนที่ประสบ ความเดือดร้อนมีจำนวน นับแสนนับล้านราย ลองตรองดูหากว่า เราจ่ายเงินผ่อนไปแล้วครึ่งหนึ่ง

แต่ท้ายที่สุดทรัพย์สิน ถูกยึดคืน นับเป็นการลงทุน ราคาแพงยิ่ง ปัญหาไม่ได้หยุดแค่นี้ ยังลุกลามไปถึง รัฐบาลเพราะมีหน้าที่เยียวยา อย่างน้อยที่สุดก็เป็นตัวกลาง

ในการเจรจากับฝ่ายเจ้าหนี้ หาเงินทุนก้อนใหม่มาให้ทำรีไฟแนนซ์ เพราะนักการเมืองมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เมื่อประชาชนเดือดร้อนจะทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนคงไม่ได้ หันมามองประเทศของเราเอง เมืองไทยเราผ่านประสบการณ์วิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 มาแล้ว ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

อันเป็นผลจาก การขยายตัว ของตลาดหุ้นและตลาด ที่ดินช่องก่อนหน้า เป็นที่ทราบดี แต่ในโอกาสนี้ พยายามมองอนาคต ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมที่ดินมา แสดงสองตัวแปรก็คือ มูลค่าการซื้อขาย ที่ดิน จากกรมที่ดิน โดยไม่รวมที่ดินการให้หรือยกเป็นมรดก ในปี 2558 มูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านบาท ตัวแปรที่สองคือสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2.3 ล้านล้านบาทโดยประมาณ

ที่ดิน

Green field under blue sky. Beauty nature background

พิจารณาจากข้อมูลนี้ คงไม่สามารถยืนยันว่าเกิดฟองสบู่อสังหาฯหรือไม่ ถึงแม้สังเกตว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ไตร่ตรองต่อไป เท่าที่นึกได้คิดว่าอาจมีสาเหตุเชิงสถาบันต่อการเก็งกำไรในที่ดินหรืออสังหาฯ 2 ประการ ประการแรก แผนการที่รัฐบาลจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง  สายเหนือ สายอีสาน สายใต้ ซึ่งอาจจะวางเส้นทางใหม่ ซื้อที่ดิน และสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา

นักลงทุนอสังหาฯและบรรดาเศรษฐีที่ มีเงินถุงเงินถังย่อม ตระหนักถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้น ประการที่สอง การเปิดประชาคม อาเซียนหรือการทะลักของเศรษฐีจีนเข้ามาซื้อบ้าน คอนโด หรือที่ดินเปล่า ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นได้

การที่ได้ทำการ เขียนหรือบรรยายในตอนนี้ไป ไม่ใช่เป็นมุมมองของ นักลงทุน ทั้งไม่ใช่ผู้ชำนาญการอสังหาริมทรัพย์ แต่พิจารณาจากแนวโน้มทางสถิติคิดว่า หน่วยงานระดับสูงด้านการเงิน การคลังน่าจะต้องติดตามประเมิน สถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐยังไม่ปรากฏชัดเจน

หากเมื่อเป็นรูปเป็นร่าง เกิดจิตวิทยาในกลุ่มคน จำนวนมาก เกิดการเก็งกำไรในที่ดิน อีกรอบหนึ่งก็เป็นได้ เพื่อที่จะทำให้ทุกท่านนั้น สามารถที่จะ เลือกซื้อหรือเลือกลงทุนได้ถูก เพื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย และไม่มีการขาดทุนได้อีก ปรึกษาเพิ่มเติมที่ Line 

Add a Comment

Your email address will not be published.